การจัดเก็บสารเคมีอันตรายตามมาตรฐานความปลอดภัย ต้องทำอย่างไร
ปัจจุบันมีการใช้งานสารเคมีในทางอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลายทั้งสารเคมีอันตรายและไม่อันตรายซึ่งในการจัดเก็บต้องมีมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากสารเคมีอันตรายนั้น
1. สารเคมีอันตรายคืออะไร
“สารเคมีอันตราย” หมายความว่า สารเคมีที่สามารถจำแนกความเป็นอันตรายได้ โดยอ้างอิงตาม Globally
Harmonized System of Classification and Labelling of Chemicals (GHS) (อ้างอิงตาม ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับการจัดการสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565)
2. GHS คืออะไร
Globally Harmonized System of Classification and Labelling of Chemicals (GHS) เป็นระบบการจำแนก
ประเภท การติดฉลาก และการแสดงรายละเอียดบนเอกสารข้อมูลความปลอดภัย (Safety Data Sheet : SDS ) ของสารเคมีและเคมีภัณฑ์ ที่องค์การสหประชาชาติพัฒนาขึ้น เพื่อให้ใช้สื่อสารและมีความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดจากสารเคมีนั้นๆ ในทิศทางเดียวกัน
3. การจำแนกประเภทของสารเคมี ตามระบบ GHS
การจำแนกความเป็นอันตรายของสารเคมีตามระบบ GHS แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ดังนี้
3.1.ความเป็นอันตรายด้านกายภาพ 16 ประเภทดังนี้
- วัตถุระเบิด (Explosives)
- ก๊าซไวไฟ (Flammable Gases)
- สารละอองลอยไวไฟ (Flammable aerosols)
- แก๊สออกซิไดซ์ (Oxidizing Gases)
- แก๊สภายใต้ความดัน (Gases under pressure)
- ของเหลวไวไฟ (Flammable liquids)
- ของแข็งไวไฟ (Flammable solids)
- สารเคมีที่ทำปฏิกิริยาได้เอง (Self-reactive substances and mixtures)
- ของเหลวที่ลุกติดไฟได้เองในอากาศ (Pyrophoric solids)
- ของแข็งที่ลุกติดไฟได้เองในอากาศ (Pyrophoric solids)
- สารเคมีที่เกิดความร้อนได้เอง (Self-heating substances and mixtures)
- สารเคมีที่สัมผัสน้ำแล้วให้แก๊สไวไฟ (Substances and mixtures, which in contact with water, emit flammable gases)
- ของเหลวออกซิไดซ์ (Oxidizing liquids)
- ของแข็งออกซิไดซ์ (Oxidizing solids)
- สารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์ (Organic peroxides)
- สารที่กัดกร่อนโลหะ (Corrosive to metals)
3.2.ความเป็นอันตรายด้านสุขภาพ 10 ประเภทดังนี้
- ความเป็นพิษเฉียบพลัน (Acute toxicity)
- การกัดกร่อน/ระคายเคืองผิวหนัง (Skin corrosion/irritation)
- การทำลายดวงตาอย่างรุนแรง/การระคายเคืองต่อดวงตา (Serious eye damage/eye irritation)
- การทำให้ไวต่อการกระตุ้นอาการแพ้ต่อระบบทางเดินหายใจหรือผิวหนัง (Respiratory or skin sensitization)
- การกลายพันของเซลล์สืบพันธ์ (Germ cell mutagenicity)
- ความสามารถในการก่อมะเร็ง (Carcinogenicity)
- ความเป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์ (Reproductive toxicity)
- ความเป็นพิษต่อระบบอวัยวะเป้าหมาย-การได้รับสัมผัสครั้งเดียว (Specific target organ toxicity-Single exposure)
- ความเป็นพิษต่อระบบอวัยวะเป้าหมาย-การได้รับสัมผัสซ้ำ (Specific target organ toxicity – Repeated exposure)
- อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจส่วนล่างหรือทำให้ปอดอักเสบจากการสำลัก (Aspiration hazardous)
3.3.ความเป็นอันตรายด้านสิ่งแวดล้อม 2 ประเภทดังนี้
- ความเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำ (Hazardous to the aquatic environment)
- ความเป็นอันตรายต่อชั้นโอโซน (Hazardous to the ozone layer)
จากความเป็นอันตรายทั้ง 3 ด้านที่กล่าวมา จะมีสัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตราย 9 รูปด้วยกัน ซึ่งสามารถ
ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก website ทั่วไป
4. การจัดเก็บสารเคมีตามมาตรการความปลอดภัย
การจัดเก็บสารเคมีตามมาตรการด้านความปลอดภัยในการจัดเก็บ มีกฎกมายหลายฉบับที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งแต่ละฉบับมีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือเพื่อความปลอดภัย ในที่นี้ เราจะพูดถึงการจัดเก็บตาม ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับการจัดการสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับใหม่ ที่เพิ่งประกาศมาเมื่อ 25 เมษายน 2565 นี้เอง โดยตามประกาศฉบับนี้ สามารถแบ่งการจัดเก็บได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
4.1.การจัดเก็บในอาคาร
- มีป้ายชี้บ่งว่าเป็นพื้นที่จัดเก็บสารเคมีอันตรายแสดงให้เห็นชัดเจน
- จัดทำแผนผังแสดงการจัดเก็บสารเคมีอันตรายที่เป็นปัจจุบัน โดยจัดเก็บในสถานที่เข้าถึงได้ง่ายและ พร้อมใช้งาน
- ภาชนะบรรจุต้องติดฉลากแสดงข้อมูลสารเคมีอันตราย และอยู่ในสถาพเรียบร้อย ไม่ชำรุด เสียหาย
- จัดเก็บสารเคมีอันตรายตามคุณสมบัติความเป็นอันตราย โดยต้องไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีอันตราย ประเภทอื่น ที่จัดเก็บอยู่แล้ว หรือจัดเก็บตามที่ระบุในเอกสารข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี
- การจัดเรียงภาชนะบรรจุสารเคมีอันตรายซึ่งมีความจุไม่เกิน 450 ลิตร มวลสุทธิสูงสุดไม่เกิน 400 กิโลกรัม โดยต้องมีความสูงไม่เกิน 3 เมตร หรือหากวางบนพาเลทต้องสูงไม่เกิน 3 ชั้น ยกเว้นจัดเก็บบนชั้นวางที่มีความแข็งแรงเพียงพอ
- ต้องมีมาตรการป้องกันหรือควบคุมไอระเหยสารเคมีอันตรายในพื้นที่การจัดเก็บ
- ต้องมีมาตรการป้องกันและระงับการหก รั่วไหล
- ต้องสามารถนำอุปกรณ์เข้าไประงับเหตุได้โดยสะดวกและปลอดภัย ไม่มีสิ่งกีดขวาง
- ต้องมีมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัยที่เหมาะสมกับชนิด และเพียงพอกับปริมาณสารเคมีอันตรายที่จัดเก็บ
4.2.การจัดเก็บนอกอาคาร
- มีป้ายชี้บ่งว่าเป็นพื้นที่จัดเก็บสารเคมีอันตรายแสดงให้เห็นชัดเจน
- จัดเก็บสารเคมีอันตรายในบริเวณที่เหมาะสมและจัดเก็บไว้เป็นการเฉพาะ ไม่เป็นที่จอดยานพาหนะหรือเส้นทางการจราจร
- ต้องเป็นพื้นที่แข็งแรง ไม่ลื่น ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีอันตรายที่จัดเก็บ และไม่มีรอยแตกร้าว
- จัดเก็บสารเคมีอันตรายตามคุณสมบัติความเป็นอันตราย โดยต้องไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีอันตราย ประเภทอื่นๆ ที่จัดเก็บอยู่แล้ว หรือตามคำแนะนำในเอกสารข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี
- การจัดเรียงภาชนะบรรจุสารเคมีอันตรายซึ่งมีความจุไม่เกิน 450 ลิตร มวลสุทธิสูงสุดไม่เกิน 400 กิโลกรัม โดยต้องมีความสูงไม่เกิน 3 เมตร หรือหากวางบนพาเลทต้องสูงไม่เกิน 3 ชั้น ยกเว้นจัดเก็บบนชั้นวางที่มีความแข็งแรงเพียงพอ
- การจัดเก็บนอกอาคารต้องคำนึงถึงผลกระทบอันเนื่องมาจากสภาวะแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ความร้อน แสงแดด และความสั่นสะเทือน ที่อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่เป็นอันตราย
- มีมาตรการในการป้องกันและระงับการหก รั่วไหล ของสารเคมีอันตราย
- มีระบบกักเก็บสารเคมีอันตรายที่หก รั่วไหล ไม่ให้ปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมและต้องป้องกันไม่ให้ไหลลงสู่ทางระบายสาธารณะ
- ต้องมีมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัยที่เหมาะสมกับชนิด และเพียงพอกับปริมาณสารเคมี อันตรายที่จัดเก็บ
จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องของการจัดเก็บสารเคมีอันตรายตามสถานที่จัดเก็บนอกจากจากสถานที่ในการจัดเก็บแล้วสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการจัดเก็บสารเคมีตามประเภทของสารเคมีซึ่งสารเคมีแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันการจัดเก็บจึงมีข้อจำกัดเช่นสารไวไฟห้ามจัดเก็บร่วมกับสารออกซิไดซ์หรือสารเคมีบางประเภทสามารถจัดเก็บร่วมกันได้แต่ต้องมีเงื่อนไงซึ่งการจัดเก็บตามประเภทของสารเคมีสามารถดูได้จากตารางการจัดเก็บสารเคมีและวัตถุอันตรายในคู่มือการเก็บรักษาสารเคมีและวัตถุอันตรายของกรมโรงงานอุตสาหกรรม
สรุป
การจัดเก็บสารเคมีอันตราย นอกจากสถานที่ในการจัดเก็บแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความเข้ากันของสารเคมีแต่ละประเภทด้วย เพราะหากมีการจัดเก็บสารเคมีทุกชนิดเข้าด้วยกัน โดยไม่ดูคุณสมบัติของสารเคมีอันตรายนั้นๆ อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ จึงต้องมีการจัดเก็บให้ถูกต้องตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย